บทที่ 2 คุณกล้าทรยศฉัน!

"ทำไม? วันนี้ไม่ได้หรือไง?" ไฟโทสะลุกโชนอยู่ในอกของคณเดช เขามักจะมีความรู้สึกเหมือนถูกหักหลังอยู่เสมอ

"วันนี้... เป็นวันเกิดของคุณผู้หญิงนะครับ"

ชายหนุ่มชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะแค่นหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา "วันเกิดแล้วยังไง? ก็ถือซะว่าเป็นของขวัญวันเกิดให้เธอไปเลยสิ! ไป... เราไปสนามบิน ไปรับภาวินีกัน!"

ในขณะเดียวกัน ภายในรถมายบัคสีดำหรูหราที่รดานั่งอยู่ ชายหนุ่มรูปงามผู้มีบุคลิกภูมิฐานและอ่อนโยนกำลังกุมมือของรดาไว้อย่างทะนุถนอม เขาพินิจดูรอยด้านที่ปลายนิ้วของเธอ สลับกับมองเสื้อผ้าอาภรณ์ที่เรียบง่ายจนเกินไป ความเจ็บปวดและสงสารฉายชัดออกมาจากแววตาของเขาจนแทบจะล้นปรี่

ธงชัยนั่งอยู่ที่เบาะหลัง ทอดสายตามองท้องฟ้าด้านนอกที่ค่อยๆ สว่างขึ้น ในใจเต็มไปด้วยความสงสารน้องสาวจับใจ นับตั้งแต่รู้ว่าชีวิตแต่งงานของเธอกับคณเดชถึงทางตัน หัวใจของธงชัยก็เหมือนถูกหินก้อนใหญ่ทับไว้จนหายใจไม่ออก เขาไม่เข้าใจเลยว่าคณเดชคนนั้น ทำไมถึงได้ใจร้ายใจดำ ปล่อยให้น้องสาวของเขาต้องแบกรับความเจ็บปวดมากมายขนาดนี้

ธงชัยกำหมัดแน่น ความโกรธแค้นลุกโชนในใจดั่งเปลวเพลิง เขาจินตนาการถึงใบหน้าอันเย็นชาของคณเดชด้วยความรู้สึกทั้งโกรธทั้งจนปัญญา เขาอยากจะโอนถ่ายความเจ็บปวดทั้งหมดไปให้คณเดชรับไว้บ้าง แต่เขาก็รู้ดีว่าทำแบบนั้นไม่ได้ เขาจะยอมให้น้องสาวต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว โดยเฉพาะความเจ็บปวดที่มาจากคนในครอบครัวที่เธอรักที่สุด

"เพ็ญนีติ์..." ธงชัยเรียกชื่อน้องสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู เขากุมมือเธอไว้หลวมๆ เพื่อส่งผ่านความอบอุ่น "ไม่ต้องเสียใจนะ พี่อยู่นี่แล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่จะอยู่ข้างๆ เธอเอง"

"หนูไม่ได้เสียใจอะไรหรอกค่ะ รดาคนเดิมถูกคณเดชฆ่าตายด้วยมือของเขาเองไปแล้ว" รดาหลับตาลง น้ำตาไหลรินผ่านสันจมูกโด่งสวยลงมาจรดมุมปาก แต่เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาคู่งามของเพ็ญนีติ์ก็ฉายแววเด็ดเดี่ยว ไร้ซึ่งเยื่อใยต่อผู้ชายคนนั้นอีกต่อไป

"กว่าจะหลุดพ้นมาได้ ถ้าหันหลังกลับไปอีก หนูคงสมควรตายจริงๆ... หนู เพ็ญนีติ์ กลับมาแล้วค่ะ!"

เธอผู้กลับคืนสู่ฐานะคุณหนูแห่งตระกูลธรรมศิริซบลงที่ไหล่ของพี่ชาย แม้ความขมขื่นจากความรักจะทำให้เจ็บปวด แต่โชคดีที่เธอยังมีครอบครัว

รดาโยนโทรศัพท์มือถือที่เมื่อก่อนไม่เคยห่างกายเพราะกลัวจะพลาดข่าวสารจากคณเดชทิ้งไปด้านข้างอย่างไม่ไยดี ราวกับมองไม่เห็นข้อความยั่วยุจากภาวินีที่ส่งเข้ามาในกล่องข้อความ

[ฉันบอกแล้วไง ว่าเธอแย่งที่ของฉันไป ไม่ช้าก็เร็วฉันจะทำให้เธอต้องคายมันออกมา พี่เดชเป็นของฉัน เธอเลิกเพ้อฝันได้แล้ว!]

ก็ปล่อยให้ผีเน่ากับโลงผุเขาคู่กันไปเถอะ!

"พี่พลรู้ว่าเธอกลับมา ก็เตรียมพลุราคาเป็นล้านไว้จุดฉลองให้เธอคืนนี้ด้วยนะ" ธงชัยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"เชยชะมัด" รดายิ้มพลางทำหน้าเอือมระอา

รดากลับคืนสู่ตระกูลธรรมศิริ ส่วนคณเดชก็รับภาวินีจากสนามบินกลับมาถึงบ้านแล้ว ในงานเลี้ยงต้อนรับที่จัดขึ้นเพื่อภาวินี ภาวินีในฐานะหลานสาวของคุณนายมานิดา นั่งรับประทานอาหารร่วมกับคนในตระกูลศิริบูรณ์อย่างชื่นมื่น

มีเพียงคณเดชคนเดียวที่ขมวดคิ้วแน่น ไม่มีกะจิตกะใจจะทานอะไร

รดาจากไปกับธงชัยดื้อๆ แบบนั้น ไม่หยิบข้าวของมีค่าอะไรติดตัวไปเลย รวมถึงเงินยี่สิบล้านและโฉนดวิลล่าหลังนั้นด้วย

"แล้วรดาล่ะ? ทำไมไม่มาพร้อมแก?" กิตติภพอดถามขึ้นไม่ได้

"เราหย่ากันแล้วครับ เธอจะไม่กลับมาที่นี่อีก"

"อะไรนะ? แกกล้าดียังไง?!" เสียงของกิตติภพดังกึกก้องราวกับฟ้าผ่ากลางห้องทำงาน ดวงตาเป็นประกายด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาชี้หน้าคณเดช ความผิดหวังและโทสะถาโถมเข้ามา "แกไม่รู้หรือไงว่าอาการปู่แกเป็นยังไง? ทำแบบนี้รังแต่จะทำให้ท่านตรอมใจ!"

หัวใจของคณเดชเจ็บแปลบ คำตำหนิของพ่อเหมือนมีดที่กรีดลึกลงไปในใจ เขารู้ดีว่าการตัดสินใจครั้งนี้กระทบต่อชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล แต่เขาก็ทนอยู่ในชีวิตแต่งงานที่เหมือนตกนรกนั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว "ผมอยากเลือกทางเดินของตัวเองบ้าง" เขาข่มอารมณ์ในใจ พยายามตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนแรง

ทว่ามานิดาที่นั่งอยู่ข้างๆ กลับดูใจเย็นเป็นพิเศษ เธอยิ้มบางๆ แววตาฉายแววปิติยินดี

"โธ่คุณพี่คะ ฉันบอกพี่ตั้งนานแล้วว่าตาเดชกับรดาไปกันไม่ได้หรอก คู่นี้คุณพ่อท่านเป็นคนจับคลุมถุงชนแท้ๆ เด็กมันทนทุกข์มาตั้งสามปี ตอนนี้แม่นั่นยอมถอย ยอมจบกันด้วยดี ต่างคนต่างไปมีความสุข มันก็เป็นเรื่องดีสำหรับเด็กทั้งสองคนไม่ใช่เหรอคะ คุณพี่ก็รู้นี่ว่าตาเดชรักหนูภาวินีมาตลอด"

คณเดชขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด พูดแทรกมานิดาขึ้นว่า "พ่อครับ เราเซ็นใบหย่ากันเรียบร้อยแล้ว รดาก็ออกจากบ้านไปแล้วด้วย ตัวเปล่าเล่าเปลือย ไม่เอาอะไรไปเลย"

"โห นังเด็กบ้านนอกนั่นหยิ่งใช้ได้เลยนี่" อาประวีณาแค่นหัวเราะ "ไม่ใช่ว่าเป็นแผนเรียกร้องความสนใจหรอกนะ? ถึงเวลาอย่าให้มันไปเที่ยวโพทนาล่ะว่าตระกูลศิริบูรณ์ของเราดูแลมันไม่ดี"

กิตติภพเห็นด้วยกับความคิดนี้ "ประวีณาพูดถูก แกต้องจำไว้ว่าภาระหน้าที่ของตระกูลคืออะไร! การหย่าร้างอาจจะนำปัญหามาให้เราได้!"

สีหน้าโกรธเกรี้ยวของเขาแฝงไปด้วยความไม่เข้าใจและความหนักใจ ภรรยาที่อยู่กินกันมาสามปี บทจะไม่เอาก็ทิ้งขว้าง ถ้าข่าวหลุดออกไป ชื่อเสียงของคณเดชป่นปี้แน่!

อีกด้านหนึ่ง ภาวินีกลับรู้สึกยินดีปรีดาเป็นที่สุด เธอรอคอยเวลานี้มาตลอด หวังว่าจะได้ลงเอยกับคณเดชสักที ความรักที่เธอมีให้เขาร้อนแรงดั่งไฟ และตอนนี้โอกาสก็มาถึงแล้ว จะไม่ให้ดีใจได้อย่างไร แต่ต่อหน้าทุกคน เธอยังต้องแสร้งทำตัวเป็นคนดี

"คุณลุงคะ อย่าดุพี่เดชเลยค่ะ ถ้าจะโทษก็โทษภาเถอะ เป็นความผิดของภาเองที่ไม่ควรมาปรากฏตัวต่อหน้าพี่เดช... เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าภาจะกลับประเทศเอ็มเองค่ะ พี่เดชคะ พี่รีบไปง้อพี่สะใภ้เถอะนะ ภาไม่อยากเป็นคนบาปที่ทำให้ครอบครัวพี่แตกแยก..." ภาวินีทำท่าเหมือนจะร้องไห้

"ภาวินี ไม่เกี่ยวกับคุณหรอก" คณเดชสายตาขรึมลง กุมมือเรียวบางของเธอไว้ "ผมกับรดาจบกันถาวรแล้ว คุณอดทนเพื่อผมมาตั้งสามปี ผมจะไม่ยอมให้คุณต้องน้อยเนื้อต่ำใจอีกแล้ว"

งานเลี้ยงต้อนรับจบลงอย่างกร่อยๆ แต่สำหรับภาวินีและคณเดช นี่คือการกลับมาพบกันที่รอคอยมานาน ภาวินีมองชายหนุ่มรูปงามตรงหน้าด้วยความหลงใหล จากนี้ไป ผู้ชายคนนี้คือสมบัติของเธอ และเธอคือภรรยาประธานตัวจริงเสียงจริง

ภาวินีควงแขนคณเดชอย่างออดอ้อน เบียดหน้าอกเข้าหาเขา แต่ไม่รู้ทำไม สัมผัสใกล้ชิดแบบนี้ แทนที่คณเดชจะรู้สึกดีใจ เขากลับรู้สึกเลี่ยนแปลกๆ

"พี่เดชคะ ภาได้ยินว่าคืนนี้ที่แม่น้ำเจ้าพระยาจะมีโชว์พลุ เราไปดูกันไหมคะ" ดวงตาของภาวินีเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น คณเดชยิ้มตอบ มองเธอด้วยความเอ็นดู

"ได้สิ ตามใจคุณเลย" เขาตอบรับทันทีด้วยแววตาอ่อนโยน รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าของภาวินี หัวใจพองโตด้วยความสุขสมหวัง

รถเบนท์ลีย์สีดำค่อยๆ เคลื่อนตัวไปยังริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ราตรีเริ่มโรยตัว บริเวณริมแม่น้ำคลาคล่ำไปด้วยผู้คน เสียงจอแจดังเซ็งแซ่ พลุกำลังจะถูกจุดขึ้น ภาวินีจูงมือคณเดชอย่างตื่นเต้น วิ่งไปยังจุดชมวิวที่ดีที่สุด ในใจเต็มไปด้วยความคาดหวัง จินตนาการถึงภาพความงดงามตระการตาที่จะเกิดขึ้น

เมื่อดอกไม้ไฟถูกจุดขึ้นสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืน ดวงตาของภาวินีก็สว่างวาบขึ้นทันที ประกายแสงสีสวยงามเบ่งบานกลางเวหา ราวกับถูกจัดเตรียมไว้เพื่อเฉลิมฉลองการกลับมาพบกันของพวกเขา เธอเผลอร้องออกมาด้วยความดีใจ คณเดชรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา เขาชอบท่าทางไร้เดียงสาและสดใสแบบนี้ ไม่ใช่นิสัยจืดชืดน่าเบื่อแบบรดา

นอกจากความเรียบร้อยและว่านอนสอนง่ายแล้ว รดาก็ไม่มีอะไรดีสักอย่าง

แค่เมียเก่าคนหนึ่ง ธงชัยยังเต็มใจจะรับช่วงต่อ ไม่รู้ว่ารดามีมนต์วิเศษอะไร ถึงทำให้คนรักนวลสงวนตัวอย่างธงชัยยอมสึกออกมาวุ่นวายทางโลกได้

ดูท่า เขาคงประเมินเธอต่ำไปสินะ

ทันใดนั้น พลุสี่ชุดก็ระเบิดตัวออกพร้อมกัน กลายเป็นตัวอักษรสี่คำกลางอากาศว่า—

สุขสันต์วันเกิด!

"ว้าว มีคนเกิดวันนี้ด้วยเหรอเนี่ย ไม่รู้ใครนะที่เป็นเจ้าของของขวัญชิ้นนี้ น่าอิจฉาจังเลย" ภาวินีอุทานออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ "พี่เดชเตรียมพลุวันเกิดแบบนี้ให้ภาบ้างสิคะ?"

แต่คณเดชกลับไม่ได้สนใจอารมณ์ของภาวินีเลย ริมฝีปากของเขาเม้มแน่น วันนี้ก็เป็นวันเกิดของรดาเหมือนกัน พลุชุดนี้เป็นของขวัญที่ธงชัยทำให้รดา หรือว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ?

ความรู้สึกอึดอัดก่อตัวขึ้นในใจคณเดช สายตาของเขากวาดมองไปทั่วฝูงชนโดยไม่ตั้งใจ ทันใดนั้น หัวใจของเขาก็กระตุกวูบ เขาเห็นรดาและธงชัยยืนอยู่ไม่ไกล ทั้งคู่ยืนชิดใกล้กันมาก บรรยากาศดูสนิทสนมเป็นพิเศษ ไฟโทสะลุกพรึบขึ้นในใจคณเดชทันทีจนแทบควบคุมไม่อยู่

"พวกเขาสองคน... อยู่ด้วยกัน?" น้ำเสียงของคณเดชต่ำลง ความกังวลและความหึงหวงถาโถมเข้ามา เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ารดาจะสนิทสนมกับธงชัยได้ขนาดนี้

ปากบอกว่ารักเขา แต่ลับหลังกลับไปพลอดรักกับผู้ชายอื่น

นี่น่ะเหรอความรักของรดา?

ร่านจริงๆ!

ภาวินีสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของคณเดช จึงมองตามสายตาเขาไป แล้วก็ต้องแปลกใจ "พี่เดชเป็นอะไรไปคะ?"

"เปล่า" คณเดชข่มความโกรธไว้ แต่น้ำเสียงกลับเย็นชา เขาไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้ ภาพในหัวหวนนึกถึงวันที่หย่ากัน รดาที่ร้องไห้อ้อนวอน

ที่แท้ก็เปลี่ยนใจไปมีใหม่เร็วขนาดนี้!

ทางด้านรดาที่ถูกเข้าใจผิด ตอนนี้กลับทำตัวไม่ถูก เธอเงยหน้ามองพลุหลากสีและคำอวยพรวันเกิดสุดเวอร์วัง แล้วก็รู้สึกอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี อยากจะมุดเข้าไปซ่อนในเสื้อสูทของพี่ชาย ไม่ให้ใครเห็นหน้า

"รสนิยมพี่พลนี่มัน... เสี่ยวจริงๆ" เพ็ญนีติ์ส่ายหน้าเบาๆ แต่ในใจกลับรู้สึกอบอุ่น

"ถ้าเทียบกับของขวัญประหลาดๆ ที่เธอเคยได้รับเมื่อก่อน อันนี้ถือว่าพัฒนาขึ้นเยอะแล้วนะ"

ธงชัยโอบไหล่น้องสาว ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดเบาๆ "ของขวัญวันนี้ไม่ได้มีแค่นี้นะ ทุกคนเตรียมไว้ให้เธอเต็มห้องนอนไปหมดแล้ว เพ็ญนีติ์... คนที่รักเธอมีเยอะแยะ เก็บความรักและเวลาไว้ให้คนที่คู่ควรเถอะนะ"

จู่ๆ เพ็ญนีติ์ก็รู้สึกแสบจมูก ความซาบซึ้งใจเอ่อล้นออกมา

"ถึงจะอย่างนั้น หนูก็ไม่ยกโทษให้พี่หรอกนะที่แทงข้างหลังหนูแบบนี้" เพ็ญนีติ์เช็ดน้ำตา ยิ้มแล้วพูดติดตลก "พาผู้หญิงที่เพิ่งหย่าหมาดๆ มาดูพลุในสถานที่เดตยอดฮิตแบบนี้ สมกับเป็นพี่ชายแท้ๆ ของหนูจริงๆ"

"เด็กดื้อ" ธงชัยใช้นิ้วแตะจมูกเพ็ญนีติ์เบาๆ ด้วยความเอ็นดู ภาพนี้ตกอยู่ในสายตาของคณเดชและภาวินีที่ยืนอยู่ไม่ไกลพอดี

คณเดชระงับโทสะไม่อยู่อีกต่อไป ส่วนภาวินีที่อยู่ข้างๆ ก็เห็นรดากับผู้ชายคนนั้นแล้วเช่นกัน เธอแสร้งทำหน้าซื่อตาใสถามว่า "อุ๊ย? นั่นพี่สะใภ้นี่คะ! ผู้ชายข้างๆ เธอเป็นใครเหรอคะ? หน้าตาคุ้นๆ จัง ดูสนิทกันมากเลยนะคะเนี่ย"

พลุบนท้องฟ้ายามค่ำคืนยังคงส่องแสงเจิดจรัส แต่ในใจของคณเดชกลับมืดมิดเหมือนมีพายุฝนฟ้าคะนอง เขาไม่อาจสะกดกลั้นความโกรธได้อีกต่อไป จึงเดินดิ่งตรงเข้าไปหารดาที่ยืนอยู่ไม่ไกล น้ำเสียงที่ตะคอกถามเต็มไปด้วยเพลิงโทสะที่พร้อมจะเผาผลาญทุกอย่าง

"เธอกล้าดียังไงมาหักหลังฉัน?! รดา!"

บทก่อนหน้า
บทถัดไป